แสดงอาการเข้าใจหรือรับรู้ ได้แก่ อ้อ! เออ! อือ! แสดงอาการเยาะเย้ย ได้แก่ เชอะ! เอ๊ว! กิ๊วกิ๊ว! กุ๋ยกุ๋ย! แสดงอาการดีใจ ได้แก่ ไชโย! ๒. คำอุทานเสริมบท คือคำอุทานที่ผู้พูดกล่าวเพิ่มเติมถ้อยคำ หรือเสริมขึ้น เพื่อให้คล้องจอง เท่านั้น โดยไม่ต้องการเนื้อความ (ไม่มีในภาษาอังกฤษ) ๒. ๑ มักเป็นคำคู่ที่มีเสียงสัมผัสคล้องจองกัน ๒. ๒ ไม่นิยมใส่เครื่องหมายอัศเจรีย์ (! ) กำกับ ๒. ๓ คำสร้อยในบทร้อยกรองก็จัดเป็นคำอุทานเสริมบท ได้แก่คำว่า แฮ เอย เทอญ นา ฤา โอ้ว่า แล เฮย เช่น เสียงรือเสียงเล่าอ้าง อันใด พี่ เอย อาหงอาหาร หนังสือหนังหา ล้างไม้ล้างมือ ลืมหูลืมตา กินหยูกกินยา เลขผานาที อาบน้ำอาบท่า ประสีประสา ข้อสังเกต ๑. คำอุทานบอกอาการ เวลาเขียนมักนิยมใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์ (! ) กำกับไว้หลัง คำอุทานนั้น ๒. คำอุทานเสริมบทเป็นคำที่เติมเข้าไปเพียงต้องการให้คล้องจองกันเท่านั้น อาจไม่มี ความหมายก็ได้ หน้าที่ของคำอุทาน ๑. แสดงอารมณ์ผู้พูด เช่น ชิชะ! บ๊ะ! เหม่! โถ! อนิจจา! โอ! แหม! ฯลฯ ๒. ใช้เสริมท้ายคำอื่นเพื่อความไพเราะ เช่น เสื่อสาด เสื้อแสง ไม่กินไม่แกน ฯลฯ ๓. ทำหน้าที่ประกอบข้อความในคำประพันธ์ เช่น กอ เอ๋ย กอไก่ รูปแบบของการอุทาน มี 2 ชนิด คือ 1.
ได้ความหมายทำนองว่า มึงเลิกทิ้งของเรี่ยราดสักที ปัญหาและความฉิบหายวายป่วง หากเราอยู่ในสถานการณ์ลำบาก มีแต่ปัญหารุมเร้าและดูไม่มีทางออก แบบนี้เราอาจจะใช้สำนวนว่า in deep shit ให้ภาพเหมือนจวนจะจมกองขี้อยู่แล้ว เช่น เพื่อนเราแอบไปสักมาทั้งที่รู้ว่าพ่อแม่เกลียดมาก ปรากฏว่าพ่อแม่ดันตาทิพย์เห็นเข้าเลยโดนเม้งบ้านแตก แบบนี้ก็อาจจะบอกว่า My friend was in deep shit when his parents found out he'd gotten a tattoo. นอกจากนั้น ยังมีสำนวน the shit hits the fan ให้ภาพอุจจาระกระทบกับพัดลมและถูกใบพัดดีดกระจายโดนทุกคนรอบวง ปกติแล้วมักใช้พูดถึงความฉิบหายที่มีท่าทีว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น เรารู้ว่าในบริษัทมีการฉ้อโกงแล้วเราไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะรู้ว่าเดี๋ยวจะเกิดปัญหาแน่ๆ เลยตัดสินใจชิงลาออก ก็อาจจะพูดว่า I don't want to be here when the shit hits the fan. ก็คือ ขอไม่อยู่รอจนเรื่องแดงแล้วเป็นเรื่องใหญ่โตนะจ๊ะ ทั้งนี้ ในมโนทัศน์ของฝรั่ง นอกจากอุจจาระจะเคลื่อนที่ผ่านอากาศไปชนพัดลมได้ ยังก่อตัวและมาในรูปแบบพายุได้ด้วย เกิดเป็นสำนวน shitstorm หมายถึง สถานการณ์ความฉิบหายวายป่วง เช่น สมมติว่าที่ทำงานเราประสบแต่ปัญหาไม่รู้ระลอกกี่ระลอก ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก ก็อาจจะบ่นกับเพื่อนว่า We've been braving one shitstorm after another.
อุทานเสริมบท คือ คำพูดเสริมขึ้นมาโดยไม่มีความหมาย อาจอยู่หน้าคำ หลังคำหรือแทรกกลางคำ เพื่อเน้นความหมาย ของคำที่จะพูดให้ชัดเจนขึ้น เป็นคำที่เพิ่มเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจให้ความเพิ่มมาแต่อย่างใด เช่น แขนแมน เสื่อสาด โต๊ะเต๊อะ จานเจิน ไม่รู้ไม่ชี้ พระสงฆ์องค์เจ้า โรงร่ำโรงเรียน ร้องห่มร้องไห้ เป็นต้น ตัวอย่างของอุทานเสริมบท เช่น อาบน้ำอาบท่า ลืมหูลืมตา กินน้ำกินท่า ถ้าเนื้อความมีความหมายในทางเดียวกัน เช่น ไม่ดูไม่แล ร้องรำทำเพลง เราเรียกคำเหล่านี้ว่า คำซ้อน
ตาเถรตกกระโถน! ครูสรมาพบกับทุก ๆ พร้อมกับคำแปลก ๆ ดูแล้วเหมือนเจอเหตุการณ์ที่น่าตกใจอะไรขนาดนั้น บางคนเมื่อตกใจ หรือมีอารมณ์ความรู้สึกที่อยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นประหลาดใจ สงสาร เห็นอกเห็นใจ หรือรู้สึกโกรธ ก็จะเปล่งเสียงออกมาด้วยคำแปลก ๆ ซึ่งอาจเป็นคำคำเดียว เป็นวลี หรือเป็นประโยคยาว ๆ คล้องจองบ้างไม่คล้องจองบ้านก็มี เช่น พ่อ!, แม่!, แม่หล่น!, แม่หก!, กระดก!, ว๊าย!, ต๊ายตาย!, อุ๊ย!, แหม!, โถ!, ตายจริง!, ชิชะ!, ปัดโธ่!, พ่อแม่ตกกระดก!, คุณพระช่วยกล้วยทอด! และคำอื่น ๆ อีกมากมายนับไม่ถ้วน คำเหล่านี้มีปะปนอยู่ในภาษาไทยที่หาฟังได้ไม่ยากในชีวิตประจำวัน บางคำเป็นภาษาชาวบ้านเมื่อผู้พูดพูดออกไปแล้ว คนฟังฟังแล้วก็อดขำไม่ได้ก็มีมาก เราเรียกคำเหล่านี้ว่าเป็น "คำอุทาน" ครูสรให้ทุกคนสังเกตคำอุทาน ตามที่ครูสรยกตัวอย่างให้ดูนั้นจะมีลักษณะพิเศษจากคำอื่น ๆ ตรงที่ จะมีเครื่องหมายอัศเจรีย์ (! )
แหล่งที่มา ไบเบอร์ดักลาส "Longman Grammar of Spoken and Written English. " Stig Johansson, Geoffrey Leech, et al., Longman, 5 พฤศจิกายน 2542 Farlex International, Inc. "The Farlex Complete English Grammar Rules, 2016: Grammar" Bukupedia 16 มิถุนายน 2559 Johnson, Rheta Grimsley "Good Grief! : The Story of Charles M. Schulz. " ปกแข็งฉบับพิมพ์ครั้งแรกหนังสือฟารอส 1 กันยายน 2532
รองเท้า รัด ส้น ใส่ สบาย, 2024 | Sitemap